VA (ตาเปล่า) 6 m. 40 cm
OD 20/20 20/40
OS 20/300 20/800 not improve with pinhole
Cover Test ortho ortho
Stereo Test 20 second of arc
OD +0.50D
OS +6.25 -300x30
OD +1.00 D 20/20
OS +6.25 -3.00x30 20/200
1.Fucultative Simple Hyperopia OD
2.Compound Hyperopic Astigmatism (With-the -rule) OS
3.Anisometripia
4.Refractive Amblyopia OS
Threatent Plan
1.Rx
OD +1.00 D
OS +1.00D
2.lens : Single Vision Safty lens
3.Education : แนะนำให้คนไข้ใส่แว่นตลอดเวลา เพื่อรักษาตาข้างที่ดีอยู่ และป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุรอบๆตัว เนื่องจากไม่มีโอกาสผิดพลาดแล้ว เพราะเหลือตาข้างที่ดีเพียงข้างเดียวแล้ว
ในเคสลักษณะนี้นั้น Funcitonal ถึงตรวจไปก็คงไม่ได้ค่าอะไรที่นำไปใช้งานได้ เนื่องจากตาข้างซ้ายของคนไข้นั้น VA ได้ดีที่สุด เพียง 20/200 และไม่ดีขึ้นเมื่อให้มองผ่านรูเข็ม (pinhole)
และการจะไป Corrected ตาข้างซ้ายด้วย Full Corection ก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเช่นกัน เพราะกรมองเห็นไม่ดีขึ้น ถ้าจะว่ากันไปแล้ว ถ้าคนไข้ยอมใส่แว่นตั้งแต่วัยเด็ก คงจะไม่ทำให้เกิดเป็นตาขี้เกียจ และคงจะสามารถช่วยให้คนไข้เห็นได้ดีว่านี้
แต่อย่างไรก็ตาม ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป ดังนั้นตาข้างขวานั้นจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลให้ดี ด้วยการใส่แว่นตลอดเวลาเพื่อเป็น safty lens ป้องกันดวงตาข้างขวาไม่ได้รับอันตราย ดังนั้นเลนส์ที่เหมาะสมที่สุดคือเนื้อ Trivex
Trivex
Safty lens หรือเลนส์นิรภัย คือเลนส์ที่มีคุณสมบัติที่เหนียวมากเป็นพิเศษ ทนต่อแรงกระแทกได้ดีกว่าเลนส์ทั่วไป ซึ่งปัจจุบันนั้น เนื้อที่ถือว่ามีความเหนียวระดับนิรภัยมีอยู่ 2 เนื้อคือ Trivex และ Polycarbonate
ซึ่งทั้งสองเนื้อนี้ มีความเหนียวในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่เนื้อ Trivex เหนือกว่า polycabonate มากคือความใสของเลนส์ ความใสในที่นี้เป็นความใสในระดับฟิสิกส์เชิงแสง ไม่ใช่แค่ความใสที่มองเห็นด้วยตาเนื้อ
คือเนื้อ trivex นั้นมีค่าความใสที่สูงสุดในทุกบรรดาเลนส์ที่เป็นเนื้อเหนียว ซึ่งมีค่า Abbe’ number สูงถึง 45 ในขณะที่ Polycarbonate นั้นเป็นเลนส์ที่มีความเครียด(lens stress)ตั้งต้นมาก ซึ่งเกิดจากกระบวนการผลิต ทำให้เลนส์ชนิดนี้แม้จะเหนียวแต่ค่าความใสนั้นต่ำกว่าเลนส์ทุกชนิด คือค่า abbe value 29 เท่านั้น
คนไข้ที่เป็นสายตายาว (Hyperopia) และสายตายาวของตาทั้งสองข้างนั้นไม่เท่ากัน (ต่างกันมากกว่า 1.00D ขึ้นไป) มีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นตาขี้เกียจกับตาข้างที่ยาวกว่าได้มาก
เนื่องจากสายตายาวนั้น แสงโฟกัสบนจอรับภาพภายใต้การเพ่งของเลนส์ตา ทั้งขณะดูใกล้และดูไกล ดังนั้นตาจะเลือกเพ่งให้ตาที่ยาวน้อยกว่าชัด และปล่อยตาข้างที่ยาวมากกว่าตามยถากรรม ทำให้ตาข้างที่ยาวกว่านั้นเกิดเป็นตาขี้เกียจ และถ้าปล่อยปละเลยไม่แก้ไข ก็จะเป็นเหมือนดังเคสนี้
ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครอง ควรพาบุตหลานไปตรวจตาตั้งแต่เด็ก เพื่อให้นักทัศนมาตรดูความปกติหรือผิดปกติ และจะได้แก้ไขให้ทันช่วงเวลา พบกันใหม่ตอนหน้า กับ Hyperopia Case Study ep.4
Reference : Refractive management of ametropia by Kenneth E.Brookman