สวัสดีวันอาทิตย์สีแดงที่ 3 กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช 2562 ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 2 ปีกุน ต้องละเอียดขนาดนั้นเลยเหรอ บางคนกำลังเกิดคำถามในใจ ถึงขึ้นจะกากบาทปิดหน้าหนีไม่อ่านต่อ แต่ก็ขอให้ใจร่มๆ ค่อยๆอ่านไป เผื่อได้สาระกลับไปบ้างไม่น้อยก็น้อยมากๆ
จริงๆ แล้วอยากจะแวะมาสวัสดีปีใหม่กับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ที่กำลังจะเข้าสู่เทศกาลของเด็กๆ คือรับซองแดง "แต๊ะเอีย" นั่นเอง ส่วนผมนั้นเลือดไท๊...ไทย เลยอดซองปีนี้เหมือนๆกัน 35 ปีที่ผ่านมา วันนี้วันจ่าย พรุ่งนี้ก็วันไหว้ มะรืนก็วันเที่ยว ก็ขอให้พี่น้องผองเพื่อนลุงป้าน้าอา เที่ยวกันอย่างมีความสุขกับวันใหม่ ปีใหม่ ของเทศกาลตรุษจีน เจริญรุ่งเรืือง ร่ำรวย สืบต่อไป ส่วนผมพรุ่งที่หยุด ความจริงก็ไม่ได้มีวันไหว้กับเขา เพียงแต่วันที่เขาไหว้นั้นตรงกับวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันหยุดของผมพอดี ก็เลยได้เนียนๆหยุดกับเขาไป
เอาหล่ะ นำเรื่องเสียยาว มาเร่ิมเรื่องเคสกันสักหน่อยดีกว่า วันนี้แวะเอาแว่นของพี่เปิล จิรพรรณ มาโพสต์ให้ชมกัน เพราะผมเห็นแล้วชอบโดยส่วนตัว ด้วยความพิเศษของทรงแว่น 12 เหลี่ยม ที่ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าใส่ แต่พอพี่เปิลใส่แล้ว บอกเลยว่า “ใช่ รุ่นนี้แหล่ะ” และไม่ใช่ใครที่ไหน แว่นตัวนั้นก็คือ Lindberg rim titanium ทรง Mette นั่นเอง แต่ก่อนจะไปดูเรื่องแว่น เราไปดูเรื่องปัญหาการมองเห็นของคนไข้กันก่อน
พี่เปิล คนไข้หญิง อายุ 40 ปี มาด้วยอาการ “โฟกัสภาพช้า” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลาที่จะต้องละสายตาจากมองไกลมามองใกล้หรือละจากมองใกล้ไปมองไกล จะมีระยะเวลาของการ delay focus อยู่ระยะหนึ่ง ถึงค่อยกลับมาชัด คือเวลาดูใกล้นานๆแล้วพอไปมองไกล ไกลจะมัวพักหนึ่ง เช่นเดียวกัน เมื่อมองไกลนานๆ แล้วมาดูใกล้นั้น ก็ต้องใช้ระยะเวลาแป๊บหนึ่งเช่นเดียวกัน ทัศนมาตรเรียกว่าความผิดปกติลักษณะนี้ว่า accommodative infacility ส่วนเรื่องความคมชัด ปัจจุบันคนไข้รู้สึกว่า ยังชัดอยู่ทั้งมองไกลและดูใกล้ แต่มีปัญหาเรื่อง “โฟกัสภาพช้า” อย่างเดียวที่รบกวนการใช้ชีวิตปัจจุบัน
ประวัติการใส่แว่น : คนไข้เริ่มใส่แว่นตอนอายุ 16 ปี ขณะนั้นจำได้ว่าสายตาขณะนั้นประมาณ -3.50 D
ประวัติการผ่าตัด : คนไข้เข้ารับการรักษาปัญหาสายตาด้วย Lasik เมื่อ 9 ปีก่อน (อายุ 30 ปี) แผลหายดี คมชัดดี ทั้งไกลและใกล้ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้สายตา
flash/floater : เห็นจุดดำ หยักไย่ ลอยไปมาอยู่บ้าง แต่หน้าตาเหมืิอนเดิม ปริมาณคงที่ ไม่เคยพบว่ามีอาการฟ้าแล๊บ
HA/Diplopia : ไม่มีปัญหาปวดหัว หรือ มีภาพซ้อน ไม่ว่าจะมองข้างเดียวหรือสองข้าง
สุขภาพทั่วไป : แข็งแรง ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี
การใช้ชีวิต : ใช้สายตาคอมพิวเตอร์ทั้งวัน มากว่า 8 ชม./วัน
PD 33/33
VAsc : OD 20/20 , OD 20/20
Refraction
BVA
OD : 0.00 -0.25 x 180 ,VA 20/15
OS : 0.00 -0.25 x 120 ,VA 20/15
ตรวจ binocular function ที่ระยะ 6 เมตร
Horz.phoria = 1 BO esohporia
BI-reserve : x/6/0
BO-reserve : x/6/2
Vert.phoria = ortho-phoria
Supra vergence = 2/1
Infra vergence = 2/1
ตรวจ binocular function ที่ระยะ 40 ซม.
Horz.phoria = 6 BI exohporia
BI-reserve : 12/20/12
BO-reserve : 12/18/10
AC/A ratio : 2 : 1
NRA / PRA = +2.25 / -0.75 (rely on BVA)
BCC =+0.75D
1.full correction
2. PALs Rx ; Add +0.75D
เคสนี้ ปัญหาจริงๆนั้น เป็นปัญหาของ Accommodation ของคนที่เริ่มเข้าสู่ภาวะสายตาชรา ซึ่งจะต้องเป็นกันทุกคนเมื่ออายุย่างเข้า 40 ปี เราเรียกวัยนี้ว่า pre-presbyopia ซึ่งเป็นวัยที่ accommodation เริ่มล้าได้ง่าย คือแรงเพ่งของ accom ยังมีพอใช้ แต่มีไม่เยอะ พอใช้ต่อเนื่องนานๆ จะล้าได้ง่าย ส่งผลให้เกิดเลนส์แก้วตาเกิดล๊อคตัวขึ้นมา เรียกว่า accommodative spasm ส่งผลให้การโฟกัสของภาพไปมานั้นทำได้ช้า
นึกง่ายๆ ถึงคนที่กล้ามเนื้อไม่เคยฝึกความแข็งแรง แล้วให้ไปวิ่งไล่ฟุตบอลหนักๆ ไม่นานตะคริวก็กิน จากกล้ามเนื้อไม่ยอมยืดหด ซึ่งคล้ายๆกันกับปัญหาที่คนไข้ท่านนี้เป็น ที่เลนส์เร่ิมไม่ยืดหยุ่น พอต้องละสายตา ทำให้การโฟกัสของภาพนั้นเริ่ม delay
ว่าด้วยการปรับตัวกับเลนส์โปรเกรสซีฟคู่นี้ เริ่มแรกใส่ คนไข้รู้สึกว่าพื้นแปลกๆ โคลงๆนิดๆเวลาเดิน แต่ไกล ใกล้ชัดเจน โฟกัสไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและหลังจากคุยกันประมาณ 10 นาที ระหว่างนั้นคนไข้ก็บอกว่า พื้นที่ลอยๆ ภาพที่ไหวๆ หายไปแล้ว สิริรวมแล้วคนไข้ใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 5 นาทีกับเลนส์โปรเกรสพื้นฐานของโรเด้นสต๊อกรุ่นนี้ แต่ก็ด้วยเป็นการเริ่มใช้โปรเกรสซีฟที่ค่า addition น้อยๆ เลนส์มีโครงสร้างที่ดี มุมองศาแว่นดี เมื่อปัจจัยทุกอย่างดี การแก้ปัญหาก็เลยพลอยดีไปหมด
Frame Story
กลับมาที่เรื่องการดีไซน์กรอบแว่นให้คนไข้ โจทก์คือคนไข้ต้องการแว่นที่เบา การดูแลรักษาง่ายไม่ยุ่งยาก ทน แข็งแรง ยืดหยุ่น และดูแปลก นึกขึ้นได้ว่ามีแว่นที่คนไข้อีกท่านหนึ่งสั่งเอาไว้ก็เลยเอามาให้ลอง พอใส่ปุ๊บบอกว่านี่แหล่ะ “ใช่เลย” ลึกๆในใจผมมองจากทรง 12 เหลี่ยมนี้แล้วเคยคิดว่า ใครหนอจะกล้าใส่ แต่แล้วก็เจอเนื้อคู่ ที่กล้าใส่และกล้าสวย
ในเรื่องรายละเอียดการดีไซน์นั้น คนไข้เป็นคนที่ชอบสีฟ้า น้ำตาล เลยเลือก rim บน/ล่างเป็นสีฟ้า color 20 ส่วน ring acetate นั้นใช้เป็นใสไม่มีสี และในส่วนสีของขานั้นเลือกเป็นสีน้ำตาลช๊อคโกแลต col U31 และ clip on เป็นสีเทา ตามสเป๊ค
LINDBERG air titanium rim
MODEL: METTE 47/22 145 mm temples
Alternative temple size
COLOUR:
Upper rim: 20
Temple: U31
Lower rim: 20
Acetate inner rims: K225
CLIPON : Grey
Lenses: Rodenstock Progressiv PureLife Free 1.5
Engraved Name : A P P L E J I R A P U N
ก็จบไปกับการแก้ปัญหาระบบการมองเห็นและงานดีไซน์กรอบแว่นตาของคนไข้ท่านนี้ ขอบคุณพี่เปิล และครอบครัวด้วยครับที่มั่นใจในบริการของลอฟท์ ออพโตเมทรี เสมอมา ท่านไหนที่อยากจะได้แว่นตาดีไซน์เก๋ๆ ไฮแบรนด์คุณภาพสูง จาก Lindberg แวะมาเยี่ยมชม และมาลอง customise ได้ที่ ลอฟท์ ออพโตเมทรี ในเวลาทำการ
นัดเวลาล่วงหน้าก่อนเข้ามาทุกครั้ง เนื่องจากการดีไซน์แต่ละครั้งนั้นใช้เวลาและใช้พื่นที่พอสมควร และลินด์เบิร์กแต่ละตัวนั้นอายุการใช้งานยาวนานมาก ดังนั้นต้องใช้สมาธิและความตั้งใจในการทำคัสตอมค่อนข้างนาน ดังนั้นเพื่อความสะดวกของท่าน ผม และท่านอื่นๆ อยากให้นัดเวลาก่อนเข้ามาทุกครั้ง เพื่อให้ผมได้ดูแลได้อย่างเต็มที่
ทิ้งท้ายไปด้วยรูปกรอบสวยๆ ของ rim titanium Mette รุ่นนี้
578 ถ.วัชรพล ท่าแร้ง บางเขน กทม.10220
090-553-6554
line : loftoptometry
Lindberg rim titanium ,model Mette