Case Study : ปัญหาปวดหัวหลังจากดูใกล้ไปสักระยะหนึ่ง ของคนสายตาสั้น เมื่ออายุเริ่มเข้าวัย 40 ปี
Case Study
เรื่อง ปัญหาปวดศรีษะช่วงบ่ายๆ หลังทำงานดูใกล้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ในคนวัย 40 ปี
เรื่องโดย ดร.ลอฟท์
สวัสดีครับ วันนี้นำตัวอย่างเคสง่ายๆ มาให้ได้ศึกษา ซึ่งก็มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ให้ได้เก็บบ้าง ซึ่งเคสที่ยกมาในวันนี้นั้น เป็นเคสของคนสายตาสั้น ที่เริ่มมีปัญหาปวดศีรษะ หลังจากทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือดูใกล้ไปสักระยะหนึ่ง ซึ่งมักจะเกิดอาการในช่วงบ่าย ซึ่งในเคสนี้นั้นมีความรุนแรงของระดับความปวดถึง 8/10 จากปัญหาสายตาคนแก่ หรือ presbyopoe และแก้ง่ายๆด้วยการใส่เลนส์โปรเกรสซีฟเท่านั้นเอง การใช้งาน 3 ปีที่ผ่านมา ก็แวะมา service บ้างตามรอบ แต่ก็เป็นมาหลังๆนี้อาการปวดหัวหนัก คนไข้คิดว่าสายตาน่าจะเปลี่ยน ซึ่งวัดดูแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยน ก็เลยไปไล่ดูศูนย์แว่น พบว่ามุมเทหน้าแว่น หรือมุม panto ขอของแว่นกรอบเจาะลินด์เบิร์กนั้น เกิดมุมเทซ้าย/ขวา ต่างกันเล็กน้อย และเมื่อดัดให้ได้ศูนย์แล้ว ก็สามารถกลับมาใช้งานแว่นเดิมได้อย่างปกติ เรื่องจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกัน
ข้อมูลทั่วไป
คนไข้ชาย ปัจจุบันอายุ 44 ปี มาด้วยอาการ ปวดศีรษะหลังจากทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ไปสักระยะหนึ่ง เป็นหนักๆมา 1 เดือนก่อนที่จะแวะเข้ามาตรวจที่คลินิก และช่วงหนึ่งเดือนหลังนี้มีการเปลี่ยนลักษณะงานมาทำงานใน office มากขึ้น ต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้น และใช้สายตาดูระยะคอมพิวเตอร์มากและนานขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไรกับแว่นโปรเกรสซีฟที่ใช้อยู่
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว คนไข้ตอนนั้นอายุ 40 ปี เข้ามาตรวจที่ลอฟท์ ออพโตเมทรี ด้วยอาการ แว่นที่ใช้อยู่นั้นเห็นภาพมีเงาซ้อน และมีปัญหาปวดศีรษะเวลาใช้แว่น โดยปวดเกือบทุกวัน บริเวณท้ายทอย และมักปวดช่วงบ่ายๆ หลังจากใช้งานคอมพิวเตอร์มาสักระยะหนึ่ง ตอนเช้าหลังตื่นนอนจะไม่มีอาการ บางครั้งต้องทานยาพาราเพื่อบรรเทาอาการปวด ซึ่งให้ระดับความเจ็บปวดไว้ที่ 8/10
ประวัติเกี่ยวกับสายตา
- คนไข้ไม่เคยตรวจตากับจักษุแพทย์มาก่อน (สุขภาพตาดี)
- ใช้แว่นครั้งแรก ตอนอายุ 14 ขวบ แว่นปัจจุบันใช้งานมา 3 ปี ปัญหาเกี่ยวกับแว่นเดิมคือ มัวเป็นบางครั้ง บางทีก็ชัด บางทีก็ไม่ชัด และปวดศีรษะช่วงบ่ายที่กล่าวมาข้างต้น
- ไม่ใช้คอนแทคเลนส์
ประวัติเกี่ยวกับสุขภาพ
- ตรวจทุกปี ผลตรวจล่าสุด ไขมันในเลือดและไตรกลีเซอไรด์สูง
- แพ้อาหารทะเล หอย ปลา อาการคือหายใจไม่ออก หลอดเลือดตีบ
ประวัติการใช้ชีวิต
- ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์วันละมากกว่า 10 ชั่วโมง
ผลการตรวจ (เมื่อวันที่ 11.4.2558)
ค่าสายตาที่วัดได้ (refractive error)
Retinoscope :
OD -2.75 D 20/25-2
OS -1.75-0.25x90 20/20
BVA
OD -3.25 20/20
OS -1.75 - 0.50x115 20/20
Binocular Function
ผลการตรวจ binocular function ที่ระยะ 6 เมตร
- 3 BO esophoria (Vongrafe’technique)
- 2.5 BO esophoria (madox rod)
- BI-Reserve : 8/12/3
- BO-reserve: 6/18/12
** ไม่มี vertical phoria
ผลการตรวจ binocular function ที่ระยะ 40 เซนติเมตร
- 3 BI exophoria
- BI-reserve : 18/24/12
- BO-reserve : 18/24/16
ผลการตรวจการทำงานของเลนส์ตา
- BCC +1.50
- NRA/PRA +1.25/-1.00
นัดมาตรวจซ้ำเมื่อวันที่ 29.5.2558 เนื่องจากคนไข้เข้ารับการตรวจช่วงเย็น คนไข้ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์มาทั้งวันและเกรงว่าจะใช้สายตามานักก็เลยนัดตรวจอีกครั้งหลังจากให้พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเข้ารับการตรวจ ซึ่งได้ค่าสายตาสุดท้ายมา ใกล้เคียงที่วัดได้จากครั้งล่าสุด
Rx
OD -3.25 20/15
OS -1.75 -0.38 x 105 20/15
Add +1.50
สรุปปัญหาครั้งนั้น
1.คนไข้เป็นปัญหาสายตาคนแก่ หรือ presbyopia และด้วยงานที่่ต้องทำงานดูใกล้วันละมากว่า 10 ชม. ทำให้เกิดความเมื่อยล้าของระบบกำลังเพ่งของเลนส์ตา คนไข้จึงมาอาการปวดหัวหลังจากทำงานดูใกล้ไปสักระยะหนึ่ง
2.มองไกลคนไข้มี แม้จะมีตาเขเข้าซ่อนเร้น (esophoria) แต่พิจารณาดูแล้ว เห็นว่ากำลังเพ่งนั้นมีมากพอ และคนไข้ไม่มี complain จึงไม่ได้แก้ให้
ผลการรักษานั้น คนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถปรับตัวเข้ากับโครงสร้างโปรเกรสซีฟได้เป็นอย่างดี ( Rodenstock Multigressiv MyView2)
ว้าบบ..มาปัจจุบัน ผ่านมา 3 ปี
คนไข้มาด้วยอาการ ที่กล่าวไว้ข้างต้นคือ ...ปวดศีรษะหลังจากทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ไปสักระยะหนึ่ง เป็นหนักๆมา 1 เดือนก่อนที่จะแวะเข้ามาตรวจที่คลินิก และช่วงหนึ่งเดือนหลังนี้มีการเปลี่ยนลักษณะงานมาทำงานใน office มากขึ้น ต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้น และใช้สายตาดูระยะคอมพิวเตอร์มากและนานขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไรกับแว่นโปรเกรสซีฟที่ใช้อยู่
สายตาที่วัดได้
Retinoscope
OD -3.00 -0.50x90 20/20
OS -2.00-0.75x90 20/20
BVA
OD -3.00 -0.25x90 20/15
OS -2.00-0.50x95 20/15
Binocular Funciton
3 BO esophoria ,Vongrafe technique @ 6 เมตร
BI-reserve : x/10/4 @ 6 เมตร
BCC +1.75 @ 40 ซม.
NRA/PRA +1.00/-1.00 @ 40 ซม.
Assessment
- สายตาสั้น มีสายตาเอียงร่วมอยู่เล็กน้อย โดยภาพรวมไม่ได้ต่างจากเดิมมากนั้น ดังนั้นสันนิษฐานว่า อาการไม่ได้เกิดจากสายตาที่เปลี่ยนไป แต่น่าจะมีปัญหามาจากเรื่องอื่น
- แว่นเบี้ยว
- เมื่อเอาแว่น LINDBERG Spirit ไป calibrate พบว่าแว่นมีการเสียสูญจากการใช้งาน โดยมุม pantoscopic tilt angle นั้นเกิดมุมเทไม่เท่ากัน และเมื่อดัดเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถใช้งานได้ดีเหมือนเดิม
- คนไข้มีเขเข้าแบบซ่อนเร้นอยู่ 3 prism base out เหมือนเดิม แต่คนไข้ไม่ได้มี complain อะไร ก็เลยบันทึกไว้ในระเบียนเฉยๆ
- คนไข้ต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะทาง สำหรับทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ จึงจ่ายเลนส์ Progressive Ergo type PC เพื่อใช้งานเฉพาะทาง
สรุป
ในเคสนี้พอจะสรุปได้ว่า
- ถ้าเราสามารถแก้สายตาได้ถูกต้องนั้น จะพบว่าเป็นไปได้ยากที่สายตาจะเปลี่ยน ไม่ว่าจะวัดซ้ำกี่ครั้ง ก็มักจะได้ค่าที่ไม่ต่างจากเดิม
- ถ้าเราทำงานเป็นขั้นเป็นตาม ตามกระบวนการทางคลินิก เราจะสามารถตัดตัวแปรที่ไม่ใช้ต้นเหตุของปัญหาออกไปได้ง่ายมากขึ้น และสามารถมองหาต้นเหตุได้ง่ายขึ้นจากการตัดตัวแปลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป
- มุมองศาแว่นนั้นเป็นเรื่องที่ซีเรียสมากๆ โดยเฉพาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟ ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับมุมเทหน้าแว่นเป็นอันดับแรก ว่ามีมุมเทพอไหม และที่สำคัญคือเทเท่ากันไหม และบางครั้งเราไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า จึงควรใช้เครื่องมือช่วย เมื่อ calibrate ให้ได้มาตรฐาน อย่างในเคสนี้ คือแว่นเกิดการบิดตัว ทำให้มุมเทไม่เท่ากัน แต่เป็นปริมาณนั้น ทำให้คนไข้ไม่ทันได้สังเกตุ และคิดว่าเกิดจากสายตาเปลี่ยน แต่พอวัดไปแล้วสายตาไม่เปลี่ยน จึงไปหาสาเหตุอื่น จึงเจอว่าแว่นเบี้ยว เมื่อดัดแล้วก็สามารถกลับมาใช้งานตามปกติ แม้จะใช้งานไป 3 ปีแล้ว ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีเหมือนเดิม
ทิ้งท้าย
เอาไว้เท่านี้ก่อน พบกันใหม่ตอนหน้า ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม
สวัสดีครับ
ดร.ลอฟท์
ติดต่อขอรับบริการทางด้านทัศนมาตร
ลอฟท์ ออพโตเมทรี
578 ซ.วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. 10220
โทร 090 553 6554
line : loftoptometry
