ทำไมผู้บริหารระดับสูง นิยมเลือกกรอบแว่นตาลินด์เบิร์ก

เรื่องโดย ทัศนมาตร สมยศ เพ็งทวี ทม.,O.D.

 

บทนำ

แว่นตาสำหรับผู้มีปัญหาสายตานั้นถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างหนึ่งของร่างกาย เพราะถ้าไม่มีมันแล้วก็ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ (มีผมเป็นตัวอย่าง) และอีกหลายๆคน ที่ถ้าตื่นมาไม่เจอแว่นตาแล้ว ขอนอนต่อดีกว่า  แต่สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาสายตาอาจจะยังไม่เข้าใจถึงความรู้สึกนี้ได้

 

ทุกคนที่มีแว่นเป็นอวัยวะ และต้องใช้ชีวิตอยู่กับแว่นทั้งวัน ก็ต้องการแว่นตาดีๆที่อยู่บนหน้า  แว่นที่เบา ใส่สบาย กระชับ แข็งแรงทนทาน  ยืดหยุ่น เข้ากับรูปหน้า ใส่แล้วเสริมภาพลักษณ์ (ไม่ใช่ใส่ไปแล้วทำให้ภาพลักษณ์แย่ลง) คุณสมบัติเหล่านี้ล้วนเป็นที่ต้องการของคนที่ขาดแว่นไม่ได้ แต่นั่นก็เป็นคุณสมบัติของกรอบแว่นตาดีๆที่ได้มาตรฐานที่พอหาได้บนโลกใบนี้ แต่แค่ฟังก์ชั่นเพียงอย่างเดียวย่อมไม่พอ สำหรับผู้บริหารระดับสูงที่ตัดสินใจใช้กรอบแว่นตา Lindberg

 

เหตุผลสำคัญที่ผู้บริหารระดับสูงเลือกใช้ลินด์เบิร์กคือ “เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้แบรนด์เอาเขาไปขายทางอ้อม”  คือเขาไม่อยากใส่แว่นที่โชว์โลโกแบรนด์แว่นตาข้างขาตลอดเวลา เดินมาไหนไปไหน พบปะผู้คน หรือออกสื่อออกทีวี ก็มีแบรนด์โชว์หราอยู่ข้างขาอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญเขาก็ไม่ได้อยากให้คนรู้สักเท่าไหร่หรอกว่าเขาใส่แว่นอะไร  และคนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้จริงๆ แต่การที่คนทั่วไปไม่รู้ว่าเขาใส่แว่นอะไรนั้นก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร จะมีก็แต่กลุ่มคนแบบเดียวกันที่มองออก  แต่ก็ไม่วายที่พนักงานขายที่ขายของเกี่ยวกับสินค้าพรีเมี่ยมเช่นเซลล์ขายรถหรูทั้งหลาย ต้องมอง Accessories เหล่านี้ให้ออก จึงไม่ต้องแปลกใจหากว่า คุณใส่แว่นตา ลินด์เบิร์กเดินซื้อสินค้าหรู จะได้รับการต้อนรับเป็นพิเศษ 

 

 

 

“Minimalist , less is more ,มากสุดบนพื้นที่ที่น้อยที่สุด นั่นคือ LINDBERG”

บนพื้นที่ที่น้อยที่สุด น้ำหนักน้อยที่สุด เพียง 1.9 กรัม ลินด์เบิร์กเป็นแบรนด์แว่นตาที่มีคุณสมบัติการเป็นแว่นที่ดีครบถ้วนมากที่สุดบนพื้นที่ที่น้อยที่สุด และ ไม่โชว์แบรนด์ข้างขา แต่มองปุ๊บรู้เลยว่านี่คือ Lindberg  นี่คือแว่นตาคุณภาพระดับสูง  นี่แหล่ะเป็นเรื่องที่ยากที่สุด  ที่สามารถตัดทิ้งทุกอย่างแม้กระทั่งโลโกแบรนด์ข้างขาแว่น  “ที่สุดของพุทธศาสตร์ คือ “การละอัตตา”  (แต่เชื่อเถิดว่า...คนใส่ lindberg ส่วนใหญ่นั้นอัตตาสูงมว้ากกก เพราะคนที่ไม่สนใจแบรนด์ข้างขาแว่น นั่นแสดงว่าเป็นที่มั่นใจในตัวเองสูงมากๆ เชื่อในตัวเองมากๆ ไม่อาศัยโลโกช่วยตัวเอง  และมีแนวโน้มว่าจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากอยู่แล้วเช่นกัน)

 

สุนทรียะ...เป็นอะไรที่มากกว่าแค่ฟังก์ชั่น” 

“คนที่เลือกใช้ LINDBERG นั้นไม่ได้แค่ต้องการแว่นที่ใส่แล้วเบา และทนทาน หรือนั่งทับไม่หัก แต่ของต้องการ “สุนทรียะในการสวมใส่แว่น”  มีวันหนึ่งผมถามลูกค้าท่านหนึ่งที่ทำ Lindberg ไปว่า “มีคนบอกว่ากรอบแว่นตาลินด์เบิร์กแพง  ในความคิดของพี่(ลูกค้า)ว่าแพงไหม"   

เขาตอบผมว่า

 

“ถ้าจะเอาแค่ฟังก็ชั่น...แว่นอะไรก็ได้   แต่ถ้าจะเอาสุนทรียะ...ผมก็ต้องเลือกลินด์เบิร์ก  แล้วผมผิดตรงไหนที่ผมให้ความสำคัญกับสุนทรียะ เหมือนกับการขับรถไปเชียงใหม่ โตต้าก็ขับไปถึง แต่ถ้าจะเอาสุนทรียะของการขับขี่ก็ต้อง บีเอ็ม  แล้วมูลค่าของสุนทรียะแพงไหม อันนี้ก็แล้วแต่คน ตอบไม่ได้”

 

ก็เป็นอะไรที่ชัดเจนว่า “คุณค่าของลินด์เบิร์กนั้นอยู่ที่สุนทรียะขณะสวมใส่แว่น” ไม่ใช่เพียงแค่ฟังก์ชั่น  และเป็นอะไรที่ลินด์เบิร์กให้มากกว่ามากกว่ากรอบแว่นตาคือ “แบรนด์อิมเมจ” คือเป็นแว่นที่เมื่อใส่แล้วมันจะช่วยให้ภาพลักษณ์เราดูดีขึ้นมาอีกเยอะเลยทีเดียว

 

“ลินด์เบิร์กไม่ใช่แว่นเซเลป แต่เป็นแว่นที่สร้างตัวคุณให้เป็นเซเลป” 

โดยธรรมชาติของตัวแว่นของลินด์เบิร์กนั้น ไม่ใช่เป็นแว่นแบรนด์ประเภทที่พวกเซเลปเขาใส่กันอย่างพวก Gucci ,Louis Vitton หรือ Prada อะไรทำนองนั้น ซึ่งแว่นพวกนั้น เราๆเห็นเซเลปเขาใส่ เราก็อยากใส่กับเขาบ้าง เผื่อจะได้เหมือนเซเลป ซึ่งก็อาจจะเหมือนบ้าง ไม่เหมือนบ้าง “แล้วแต่บุญทำ..กรรมแต่ง” 

         แต่ลินด์เบิร์กนั้นไม่ใช่แว่นที่ทำให้ตัวเราเลียนแบบเซเลป แต่จะสร้างตัวเราให้เป็นเซเลปขึ้นมา ไม่ต้องเป็นอย่างใคร เรามีคนเดียวในโลก เรามีความงามความหล่อเฉพาะไม่เหมือนใคร ลินด์เบิร์กจะไปช่วยเสริมความแพงให้หน้าของเรา จะทำหน้าเราให้สวยเด่นขึ้นมา และไม่ทำให้หน้าเราเปลี่ยน  มันเป็นแว่นตาที่เรียบง่ายที่สุด ดูเฉยๆมากเวลาวางอยู่บนเชลฟ์ แต่จะดูสวยดูแพงขึ้นมาทันทีเมื่ออยู่บนหน้า นั่นแหล่ะลินด์เบิร์ก

 

dr loft 7

 

“แว่นตาเป็นเรื่องการลงทุน”  

การลงทุนเพื่อให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ต้องลงทุน  ลงทุนนั้นหมายถึงทุนที่เราลงไปเพื่อหวังผลประโชน์ที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งที่ต้องลงทุนไป  เช่นเราลงทุนซื้อหุ้นเพื่อหวังเงินที่งอกเงยขึ้นจากการปันผลประกอบการและมันก็จะงอกเงยออกดอกออกผลให้เราเมื่อเวลาผ่านไป (ถ้าหุ้นที่ซื้อนั้นเป็นหุ้นที่ดี)

 

การลงทุนแว่นตาดีๆ ย่อมจะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ได้มองโลกเห็นโลกงาม  เบาสบาย โล่งหัว ไม่ปวดหัว ไม่ปวดตา ไม่รำคาญ แค่เพียงเห็นและมีความสุขกับการมองเห็นเท่านั้น เราจะมีพื้นที่สมองให้ไปคิดเรื่องที่ดีมีประโยชน์มากขึ้น และก็จะช่วยให้การงานเราดีขึ้น ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการเมื่อยล้าเมื่อต้องใช้สายตาหนักๆ  แว่นที่เบานั้นจะเบา 365 วัน/ปี แว่นที่หนักก็หนักปีละ 356 วันเช่นกัน   แว่นดูดีที่ทำให้หน้าเราแพงก็แพงปีละ 365วันในขณะที่แว่นที่ทำให้ภาพลักษณ์เราดูแย่ก็แย่ปีละ 365วันเช่นกัน

 

        

ดังนั้นถ้าเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้ เราก็จะสามารถสะสมความสุข สะสมภาพลักษณ์ และอายุการใช้งานของลินด์เบิร์กนั้น มากกว่า 10 ปี (แม้จะประกัน 3 ปีก็ตาม) จริงๆคุ้มตั้งแต่สองปีแรกแล้ว (เพราะแว่นที่ช่วยให้เราหน้าแพงนั้น คุ้มตั้งแต่วันแรกที่ใส่) ด้วยคุณภาพ,ภาพลักษณ์ และอายุการใช้งานแล้วจึงไม่แพงสำหรับคุณภาพระดับนี้

 

“การลงทุนมีความเสี่ยง”

         “ทุกการลุงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุน”  เป็นคำเตือนสำหรับนักลงทุน เพราะการลงทุนให้กับดวงตานั้น ถ้าลงทุนผิดพอร์ตแล้ว ไม่มีเจ๊า..มีแต่เจ๊งเท่านั้น  ดังนั้นในการลงทุนทำแว่นหนึ่งอันนั้น ต้องดูหลายๆองค์ประกอบว่า พอร์ตที่เราจะเข้าไปลงทุนนั้น เขามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีความแข็งแรงของความรู้และประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน  และหุ้นที่ดีจะดูไม่หวือหวา ปันผลไม่เวอร์ แต่อยู่นาน มีแต่ขึ้น มีคนมาลงหุ้นเพิ่มเรื่อยๆ ในขณะที่หุ้นที่ไม่ดีจะล่อตาล่อใจจากราคาหุ้นที่ต่ำแล้วต่ำอีก หรือซื้อหุ้นหนึ่งตัวแถมอีกตัว แปลว่าหุ้นตัวนั้นกำลังจะเจ๊ง ฉันไดก็ฉันนั้น “ การทำแว่นดีๆ เป็นเรื่องการลุงทุน ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุนทำแว่น”

 

ผู้ให้บริการด้านสายตาก็เช่นกัน  ในประเทศไทยนั้นมีร้านแว่นตาให้เข้าใช้บริการมากกว่า 7-Eleven ก็ต้องเลือกหน่อย  อย่าไปมองเพียงการลดราคาหรือโปรโมชั่นที่ดึงดูด เพราะอย่าลืมว่าเรากำลังลงทุนให้กับคุณภาพการมองเห็น ลงทุนทำอวัยวะที่ต้องใช้งานทุกวัน  เพราะถ้าพลาดแล้ว นอกจากจะใส่ไม่ได้แล้ว ก็คงต้องช้ำอกช้ำใจไปอีกนาน แล้วก็ shopping around ไปเรื่อยๆ  รวมๆแล้ว แพงกว่าแว่นดีๆหนึ่งตัวเสียอีก โบราณเรียกว่า “เสียน้อย..เสียยาก เสียมาก...เสียง่าย” คือจะทำแว่นดีๆให้ตัวเองสักอัน ก็เสียดาย ทำใจไม่ได้ ก็ไปหาซื้อแว่นสำเร็จคุณภาพต่ำ จนเกิดปัญหาสุขภาพตาเสียตามมา แล้วก็ต้องเสียเงินเสียทองในการรักษาหนักกว่าเดิม

 

Lindberg Collection 

 LINDBERG นั้นมีแบบหลักๆอยู่ 13 คอลเลคชั่น คือ Spiriti titanium , air titanium ,thintanium , n.o.w titanium ,strip titanium 7000 ,strip titanium 9500/9600 ,strip titanium 9700 ,strip titanium 9800 ,acetanium , buffalo titanium ,trae+buffalo titanium , sun titanium ,air titanium และ precious  ดู official collection ได้จากลิ้งค์ https://lindberg.co โดยแต่ละรุ่นจะมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง มีเรื่องการเลือกใช้วัสดุในแต่ละรุ่นที่ไม่เหมือนกัน สวยทุกรุ่นทุกแบบ อยู่ที่ว่าจะชอบแบบไหน ก็อยู่ที่รสนิยมของผู้ที่สวมใส่  ซึ่งเรามาเริ่มจากตัวแรกกัน

 

1000 Acetanium

 

LINDBERG รุ่นนี้จะมีความโดดเด่นพิเศษ โดยตัวกรอบจะเป็นการ ผสมผสานวัสดุระหว่างพลาสติกอะซีเทท(Acetate) เกรดสูงกับไทเทเนียม (titanium) ซึ่งคุณสมบัติสำคัญของเนื้อพลาสติกอะซีเททคือสามารถนำไปทำเฉดสีให้มีลาดลายที่คมชัด เช่นลายกระ หรือย้อมสีได้สวยงามและหลากหลาย และยังมีน้ำหนักที่เบา ความยืดหยุ่นที่สูง และสามารถดัดปรับให้เข้ากับหน้าตาได้ดี ทำรูปทรงได้หลากหลาย ** Acetatanium คือเนื้ออะซีเตตเซลลูโลส หรือฝ้าย (cotton) ซึ่งลินด์เบิร์กใช้ cotton 80 % ทำให้กรอบรุ่นนี้มีน้ำหนักที่เบากว่าอะซีเตตของแบรนด์อื่นๆ

                  

ธีมของของ Acetanium จะให้กลิ่นอายของความเป็น vintage เล็กๆแต่มีความร่วมสมัยผสมอยู่ ดูแล้วมีความคลาสิกลึกๆ โดยเฉพาะคนชอบสร้างสีสันให้ใบหน้า จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้   เหมาะกับคนที่มีความติสในตัวและอยากใส่แว่นที่มีเอกลักษณ์และมีสีสัน  และยังเหมาะกับคนสายตาสั้นมากๆ เพราะสามารถเก็บซ่อนความหนาของเลนส์ได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ

 

Spirit titanium 2000  

       

สำหรับรุ่น 2000 Spirit แว่นตาไร้กรอบจาก LINDBERG ที่สุดของความคลาสสิคแห่งยุค ถือว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นรุ่นทำชื่อของลินด์เบิร์ก เป็นรุ่นที่สามารถ customized ได้ละเอียดมากที่สุด มีทรงเลนส์ให้เลือกมากกว่า 100 แบบ และสามารถออกแบบทรงเลนส์ได้อิสระตามรสนิยมเป็นรุ่นที่เราสามารถเนรมิตกรอบแว่นได้ทั้ง สี ดีไซน์ และขนาดได้ตามความต้องการ ขาแว่นมีด้วยกัน 17 แบบ แต่ละแบบก็สามารถเลือกสีได้อิสระ ความยาวขาได้ตามรูปทรงใบหน้าและศีรษะ เป็นรุ่นที่มีความเรียบง่ายมากที่สุด และด้วยน้ำหนักเพียง 1.9 กรัมแล้ว ทำให้หลายๆคนเลือกแว่นรุ่นนี้ เป็นเป็นลินด์เบิร์กตัวแรกของตัวเอง

 

  

 

 

6500 n.o.w. titanium

Lindberg n.o.w. เป็น collection ใหม่ที่เกิดมาในช่วง 4-5 ปีให้หลังมานี้ โดยใช้วัสดุใหม่ที่ลินด์เบิร์กคิดค้นขึ้นมาคือ “lindberg composit” ซึ่งเป็นลักษณะหน้าแว่นเป็นพลาสติกใสโปร่งแสง มีความเรียบมันเงา และสีสันสดใสสวยงามกว่าเนื้อพลาสติทั่วไป  โครงสร้างกรอบเป็นกรอบเซาะร่อง โดยโครงสร้างจะมีแกนพลาสติกยกตัวขึ้นตรงกลางกรอบ แต่ดูภายนอกดูเหมือนว่าเป็นกรอบเต็ม ดังนั้นการประกอบเลนส์ต้องอาศัยความแม่นยำและชำนาญกับกรอบแว่นมาก หากเล็กไปนิดเดียวก็จะหลวม แต่ถ้าหากใหญ่กว่านิดเดียวก็จะใส่ไม่ได้ เลนส์จะต้องมีขนาดเท่ากันและมีร่องที่กว้างและลึกตามขนาด จึงจะสามารถประกอบเลนส์ได้

 

 

Lindberg n.o.w   นั้นมีนำหนักเบาพิเศษเพียง 2.3 กรัม ผสานดีไซน์เรียบเก๋ด้วยขาแว่นที่มีน้ำหนักเบาอย่างไทเทเนียม เลือกได้ 3 แบบ สั่งความยาวขาได้ หน้าแว่นสามารถเลือกได้ 17 เฉดสีทั้งแบบโปร่งแสงเงา แบบโปร่งแสงด้าน และทึบ หรือแบบไล่โทนสี เพิ่มความโดดเด่นมีสไตล์ด้วยร่องเลนส์หลากสีสันในแบบที่คุณ ชื่นชอบ นอกจากนี้คุณสามารถเลือกสีขาแว่นไทเทเนียมได้อีกมากกว่า 40 เฉดสี

 

Stip titanium 7000

       

Lindberg 7000 strip มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์กรอบแว่นไทเทเนียมเพียงครึ่งกรอบบนกับเส้นไนลอนครึ่งกรอบล่าง โดย strip จะใช้วัสดุไทเทเนียมเกรดพรีเมียม มาเข้ากระบวนการตัดรูปทรงต่างๆด้วยเลเซอร์  ทำให้มีรูปทรงที่สวยงาม ขอบเรียบสวย ออกแบบกลไกการยึดเลนส์ด้วยในไนลอน และยังช่วยลดในเรื่องของน้ำหนักได้อีกด้วย  และยังคงความเรียบง่ายของลินด์เบิร์กได้อย่างครบถ้วน คือน้ำหนักเบา แข็งแรง ยืดหยุ่น ดูดี ไม่มีน๊อต สกรู หรือหมุด  มีเฉดสีให้เลือกมากมาย และกระบวนการสร้างสีลองลินด์เบิร์กนั้นไม่ใช้การเคลือบสีเหมือนแว่นทั่วไป แต่ใช้ไฟฟ้าในการให้ไทเทเนียมคายสีออกมา ดังนั้นสีที่เราเห็นจึงดูมีมิติ มีความเหลือบ สวยงาม  และเป็นสีธรรมชาติของไทเทเนียม จึงไม่มีปัญหาเรื่องสีลอก และสียังคงความสดสวย แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานหลายปีก็ตาม

 

Strip titanium 9500 

Lindberg 9500 strip  ต่างจากรุ่นที่ผ่านมาโดยการดีไซน์เป็นกรอบเซาะร่องโลหะโดยรอบ โดยใช้วัสดุเป็นไทเทเนียมเกรดสูงขึ้นแผ่นขนาด 7 มม. แล้วใช้เลเซอร์คัท เป็นรูปทรงต่างๆ เกิดเป็นกรอบแว่นที่เรียบหรูดูดี กลไกที่น่าสนใจคือ จุดล๊อคเลนส์ที่ออกแบบมาได้อย่างน่าทึ่ง โดยไม่มีการใช้น๊อตหรือสกรูใดๆ ในการยึด แต่ใช้ไทเทนียมชิ้นเดียวกันออกแบบกลไกลการล๊อก ทำให้งานที่ออกมานั้น ดูสะอาดสะอ้านสวยงาม และสามารถเลือกหน้าแว่นสีแต่งจากขาแว่นได้อิสระ  ความยาวขา สี ก็ยังเลือกได้อิสระเหมือนเดิม

 

กรอบแว่นรุ่นนี้ต้องการร่องเซาะสำหรับการฝั่งเทเทเนียมเข้าไปในเนื้อเลนส์ ซึ่งต้องการความกว้าง 0.8 มม ลึก 0.7 มม. ดังนั้นความหนาเลนส์ไม่ควรบางกว่า 2 มม.​ และต้องการขนาดเลนส์ที่แม่นยำ ไม่อย่างนั้นแล้ว จะไม่ไม่สามารถประกอบเลนส์เข้าไปในกรอบได้

 

Stip titanium 9700

 

9700 Strip นั้นมีดีไซน์ที่ดูสะดุดตา โดยมีการนำวัสดุที่ต่างกันชนิดกันมาผสมผสานกันเป็นดีไซน์สวยงาม โดยใช้อะซีเททสร้างเป็น ring ขึ้นมาเป็นร่อง โดยร่องด้านนอกนั้นไว้เป็นส่วนที่ไทเทเนียมจะฝังตัวเข้าไป และร่องด้านในนั้นสำหรับยึดสันเลนส์  ทำให้ได้ดีไซน์ใหม่ที่ดูสวยงามแปลกตา มีความเป็นย้อนยุคปนร่วมสมัย และโครงสร้างหลักยังใช้เป็นไทเทเนียม ที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และสามารถเลือกสีได้ทั้งในส่วนของอะซีเททและสีของไทเทเนียมได้อย่างอิสระ

 

 

ก็เป็นอีกดีไซน์หนึ่งที่ดีแปลกดี ชวนให้มอง สำหรับคนที่เบื่อความเรียบง่าย  และต้องการแว่นที่มีอะไรมากขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ก็ยังอยากได้อารมณ์ความเป็น minimalism อยู่

 

Strip titanium 9800  

         

strip 9800 รุ่นยังเป็นรุ่นที่ยังอยู่ในกลุ่มที่ใช้โครงสร้างแว่นเป็น titanium sheet ผ่านกระบวนการสร้างรูปทรงด้วย laser cut โดยรุ่นนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุคุณภาพสูงสองตัวคือ อะซีเททและไทเทนียม โดยความแปลกของรุ่นนี้ อยู่ที่กลไกลการยึดเลนส์ ไทเทเนียม และอะซีเทท เข้าด้วยกันด้วยกลไกล้วนๆ ไม่มีการใช้กาวหรือน๊อตกรูใดๆ ซึ่งเกิดจากการดีไซน์ที่ฉลาด และมีความแม่นยำของการเข้ามุมสูงมาก เพราะการที่แผ่นไทเทนียมฝังเข้าไปนอนอยู่ในเนื้ออะซีเททเฉยๆ โดยไม่ต้องใส่กาวนั้น เกิดจากความบาลานซ์ของทุกส่วน ซึ่งเป็นอีกตัวหนึ่งที่ผมรู้สึกทึ่งถึงงานดีไซน์ของลินด์เบิร์ก

 

       

อารมณ์ของรุ่นนี้จะไปในโทนของ ความเป็น vintage เล็กๆ แต่ก็มีความทันสมัยในตัวเอง ซึ่งผมว่ามันดูดีมากเลยนะ และงานประกอบก็ต้องใช้ความแม่นยำ และช่างต้องมีความชำนาญการพิเศษในการฝนประกอบเลนส์เข้ากรอบ

 

air rim titanium 

Lindberg Rim Titanium นั้นถือว่าเป็นพิมพ์นิยมอีกรุ่นหนึ่ง ด้วยความที่มีเอกลักษณ์ของลินด์เบิร์กอย่างแท้จริง คือมองปุ๊บนี่รู้เลยว่า “นี่แหล่ะลินด์เบิร์ก” โดย charactor ของรุ่นนี้นั้นเกิดจากการใช้ลวดไทเทเนียมขดเป็นส่วนประกอบต่างๆของกรอบแว่น  และสร้างรูปทรงจากการดัดทรงแว่นเป็นทรงต่างๆได้อย่างน่าทึ่ง และจุดเด่นของแว่นตัวนี้คือ การโชว์บานพับของขาแว่นออกมา ในขณะที่แบรนด์ตลาดทั่วไปนั้นยังต้องหลบต้องซ่อนบานพับ เพราะเป็นจุดที่ไม่สวยที่สุดแล้ว แต่ลินด์เบิร์กสามารถทำจุดที่ด้อยที่สุดให้กลายเป็นจุดเด่นขึ้นมา และเด่นมากด้วย

 

Titanium air rim เป็นรุ่นที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก ซึ่งสามารถดัดให้เกิดมุมต่างๆได้อย่างอิสระ เป็นแว่นที่สะอาดมากๆรุ่นหนึ่ง สำหรับสาย  minimalist แล้ว รุ่นนี้ถือว่าต้องมีไว้ในครอบครองสักหนึ่งตัว  และเรื่องอายุการใช้งานนั้น ผมว่ามันจะอยู่กับเราตลอดไป และไม่รู้จะมาทำให้มันพังได้อย่างไร

 

ความพิเศษของรุ่นนี้คือ clip-on ที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม และยังให้ความรู้สึกว่าแว่นยังเบาเหมือนเดิม และมีให้เลือก 2 สีคือ เทา กับ น้ำตาล  สำหรับคนที่แพ้แสง หรือไม่ต้องการใช้เลนส์เปลี่ยนสี เพราะอาจดูไม่สวยเวลาต้องถ่ายรูปกลางแดด ก็สามารถใช้ clip on แทนได้  อยากใสก็แค่ถอดออกมา

 

air titanium classic  

air classic ถือเป็นรุ่นที่ คลาสิกสุดๆแล้วสำหรับลินด์เบิร์ก เป็นรุ่นแรกและรุ่นทำชื่อให้กับ พอล์ล จอน ลินด์เบิร์ก ผู้เป็นพ่อของ Henrik Lindberg   รุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นมาครั้งแรกในปี 1988  โดยเริ่มจากที่ paul john lindberg ซึ่งเป็น optometrist ในสมัยนั้นไม่สามารถหากรอบแว่นที่ดีๆอย่างตัวเองต้องการได้ เลยคิดออกแบบกรอบแว่นด้วยตัวเอง ให้มีฟังก์ชั่นที่ดีที่สุด แต่ต้องมีน้ำหนักเบาที่สุด เรียบง่ายที่สุด จึงเกิดเป็น Air  Classic เกิดขึ้นมา แม้ปัจจุบันแม้จะผ่านล่วงเลยเวลามากว่า 28 ปี  กรอบแว่นตารุ่นนี้ก็ยังคงเดินสายการผลิตอยู่ และยังมีผู้ที่นิยมชมชอบในความคลาสิกอยู่เสมอ และไม่เคยดูแก่หรือเก่าในสายตาผู้ที่หลงรักในความเป็นลินด์เบิร์ก

 

กรอบแว่นที่จะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำกรอบแว่นนั้น  ลินด์เบิร์กจะเลือกใช้เฉพาะ premium titanium เกรดสูงที่ใช้ทำวัสดุทางการแพทย์ และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และมีน้ำหนักที่เบา ยืดหยุ่น และแข็งแรง

 “ขดลวดไทเทเนียม” นี่เองคือ signature ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ lindberg และได้รับรางวัลการออกแบบมาทั่วโลก และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นกรอบแว่นที่สุดแล้วบนโลกใบนี้

 

Buffalo titanium 

กรอบแว่นทำจากเขาสัตว์แท้ๆ ล้ำหน้าด้วยเทคนิคพิเศษที่คิดค้นเพื่อสร้างสรรค์กรอบแว่นจากวัสดุธรรมชาติ มีความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ทำจากเขาสัตว์แท้ กลายเป็นกรอบแว่นตาสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นับเป็นงานฝีมือชั้นยอดจากช่างฝีมือมืออาชีพ ประณีตสวยงามทุกกระบวนการขั้นตอน กรอบแว่นมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ไร้ปัญหาเรื่องแว่นกดทับจมูก ด้วยสะพานจมูกที่ทำจากไทเทเนียมผสานกับกรอบแว่นเขาสัตว์ได้อย่างลงตัวเหมาะกับทุกรูปหน้า ความพิเศษของรุ่นเขาสัตว์แท้นี้อยู่ตรงที่เฉดสีธรรมชาติและลวดลายที่ต่างกัน สร้างเสน่ห์อย่างมีเอกลักษณ์และไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน

 

เฉดสีของขานั้น เลือกได้ 4 เฉดคือ เงินงา ทองด้าน ดำด้าน และสีไทเทเนียม เพราะเมื่อเข้ากับเขาสัตว์แล้วจะทำให้ดูดีที่สุดและไม่เบื่อง่าย

การเลือกสีกรอบของ Buffalo Horn Titanium นั้นเลือกได้เพียงโทนสี แต่ไม่สามารถเลือกลายได้ เนื่องจากแต่ละส่วนของเขาสัตว์นั้นจะให้สีและลายไม่เหมือนกัน และเนื่องจากเป็นเขาสัตว์แท้ จะต้องมีการบำรุงรักษาโดยมาให้ร้านที่เป็น Authorized นั้นทำการอบขี้ผึ้งเพื่อให้ความชุ่มชื้นกับเขาสัตว์ประจำทุก 2 เดือน

light brown light brown

medium brown light brown

dark brown dark brown

deep black light brown

เฉดสีของเขาสัตว์ของรุ่น Buffalo Horn นั้น มีให้เลือก 4 เฉดสีคือ Dark Brown Dark brown, Medium brown light brown ,Deep black light brown  และ light brown light brown  ตามลำดับ

 

Precious 

       

Precious เป็น Lindberg collection ที่เกินความเป็นแว่นไปแล้ว มันเป็นเรื่องของคุณค่าทางใจ เป็นเรื่องของเครื่องประดับที่สามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้ งานแต่ละชิ้นของ precious นั้นเป็นงานทำมือระดับมาสเตอร์พีช  ใช้วัสดุจากทองคำ แพลตทินัม  ตกแต่งด้วยเพชรน้ำงาม โดยใช้ช่างที่มีงานฝีมือชั้นเลิศ คัดสรรวัสดุชั้นเยี่ยม ผ่านกระบวนการผลิตที่ปราณีตบรรจงสุดยอด  จึงทำให้ precious แต่ละตัวนั้นมีลักษณะที่โดดเด่น บ่งบอกรสนิยมของผู้ที่สวมใส่ และคู่ควรแก่การครอบครอง 

 

 

Loft Optometry / Lindberg

 

ผมเป็นคนที่รักแบรนด์ลินด์เบิร์กมาก รักมานานมาก และฝันว่าวันหนึ่งเมื่อได้ทำร้านแว่นขึ้นมา จะนำแบรนด์นี้มาขาย  กว่าจะสามารถ open order  แรกได้ก็ต้องเก็บเงินปีกว่า เพราะเราไม่ใช่คนที่มีทุนหนา เนื่องจากต้องเปิดจำนวนเริ่มต้นที่เยอะมาก และแต่ละตัวก็แพงมาก  จนในตอนแรกก็กังวลว่าจะทำได้ไหม เพราะหลังจากเปิด account แล้วก็ต้องรักษายอดต่อปี ซึ่งกฏของบริษัทคือ  ร้านค้าที่เป็น Authorize Dealer นั้นต้องมี repeat order ต่อปีอย่างน้อย 20 ตัว แต่พอเปิดจริง ยอด repete ในแต่ละเดือนนั้นก็ผ่านเกณฑ์ปีแล้ว และเป็นกรอบแว่นแบรนด์เดียวที่ขายเป็นหลักในร้าน และทุกคนก็รักมันเหมือนที่ผมรัก  และเมื่อต้นปีนี้เองผมก็ได้เปิดออเดอร์ Buffalo Horn ซึ่งมีร้านที่เป็น Horn Authorized ทั่วประเทศไม่ถึง 10 แห่ง ลอฟท์ ออพโตเมทรี คือหนึ่งในนั้น ก็เป็นความภาคภูมิใจของผม ในการใช้เวลาเพียง 2 ปีในการเข้าถึงแบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก เพื่อนำสินค้าที่ดีที่สุดมาคอยบริการในร้าน  ผมหลงไหลในความเป็นลินด์เบิร์ก ศึกษาหาความรู้  เทคนิคต่างๆเกี่ยวกับการดัด การประกอบเลนส์ จนสุดท้ายต้องซื้อเครื่องตัดเลนส์แบบ cnc (WECO E.6) รุ่นทอป นำเข้าจากเยอมันเพื่อมาทำงานกับลินด์เบิร์กโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถฝนประกอบแว่น lindberg ให้ออกมาสวยและดูดีที่สุด

 

Dealer 

การซื้อกรอบแว่นตาจากร้านที่เป็น Authorized Dealer นั้นเป็นเรื่องจำเป็น  ด้วยกรอบแว่นลินด์เบิร์กนั้น ต้องมีเทคนิคในการประกอบเลนส์ การดัดแว่นที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะ  และต้องใช้คีมดัดที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับใช้กับกรอบแว่นลินด์เบิร์ก และต้องเป็นช่างเทคนิคที่ผ่านการอบรมมาจึงจะสามารถบำรุงรักษากรอบของเราให้แลดูใหม่อยู่ตลอดเวลา และร้านที่เป็น Authorized นั้นจะมีอะไหล่สำรองคอยเปลี่ยนให้ฟรี

 

นอกจากนี้จะเกี่ยวข้องกับการประกัน เมื่อกรอบแว่นมีปัญหาแล้วต้องการเคลม  ร้านที่เป็น Auhorized เท่านั้นที่จะสามารถจัดการเป็นธุระให้เราได้  และมีแต่ร้านที่เป็น Authorized เท่านั้นที่จะสามารถสั่งกรอบแว่น custom made ให้เราได้

 

สามารถเช็คหาร้านที่เป็น Auhorized ได้จาก https://lindberg.com/en/dealers ซึ่งร้านค้าที่เป็น premium dealer มีทั้งประเทศ 45 ร้านค้า  และ Buffalo Titanium dealer มี 9 ร้านค้าเท่านั้น และ loft optometry เป็น 1 ใน 9 ร้านนั้น

 

และที่แนะนำอีกอย่างหนึ่งก็คือ เนื่องจากมีกรอบแว่นตาที่ค้างมาจาก dealer เดิมค้างอยู่สต๊อกเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะหลายพันตัว กระจายอยู่ร้านต่างๆ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการ service ก็ให้ซื้อแบบที่สามารถ custom ได้ และลินด์เบิร์กนั้นได้เปลี่ยนกล่องแบบใหม่แทนกล่องพีรามิดแล้ว ดังนั้นถ้าแว่นเราใหม่เราจะได้กล่องแบบใหม่มา

 

Warranty 

การประกันของลินด์เบิร์กนั้น จริงๆแล้วประกัน 3 ปีทุกกรณี พัง หัก สีลอก ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด ลินด์เบิร์กจะดูแลให้  3 ปี จากวันที่ลูกค้าซื้อไป  ซึ่งแว่นทุกตัวของลินด์เบิร์กนั้นจะมี serial number ยิงอยู่ที่ขาแว่นทุกตัว แต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อสิทธิในการเคลมประกันของท่าน ให้เลือกซื้อตัว Custom เพื่อให้การเดินของประกันนั้นเริ่มจาก 0  เพราะแว่นที่ค้างสต๊อกใน shelf นั้นจะหมดประกันอัตโนมัติเมื่อเลย 3 ปี

 

at last 

ก็เอาแบรนด์ที่ผมรัก มาเล่าสู่กันฟัง เผื่อท่านๆ จะได้ไอเดียบางอย่าง และขอให้มีความสุขกับการอ่าน และหากมีโอกาสก็แวะมาเลือกดูเลือกชมได้ที่ ลอฟท์ ออพโตเมทรี วัชรพล   รับรองว่าท่านจะหลงรักลินด์เบิร์กโดยไม่รู้ตัว  และจะเป็นสาวกลินด์เบิร์กอย่างแน่นอน

 ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ ตั้งใจว่าจะเริ่มทำบทความแล้ว หลังจากพักปรับปรุงร้านใหม่หลายๆอย่าง แต่ไม่มีเวลาได้อัพเดตสักที

         ขอบคุณครับ 

         ดร.ลอฟท์ 


578 Wacharapod Rd ,Bnagkhen , BKK 10220

T.090 553 6554