#เมื่อความต้องการคือแว่นสปอร์ตที่สามารถใส่ทำงานและออกงานได้
ความลงตัวเลยลงไปอยู่ที่ #LindbergSpirit8 ที่ออกแบบมาให้ต่างจาก spirit ทั่วๆไปคือออกแบบให้มีลักษณะที่มีหน้าแว่นโค้งกว่าแว่นทั่วๆไป และใช้เลนส์ที่มีผิวโค้งหน้าเลนส์ที่เราเรียกกันว่า Base Curve 7 (BC 7) จึงจะสามารถสร้างแว่นที่มีความโค้งหน้าแว่นได้ 15 องศา แว่นตัวนี้ทรงเลนส์งามมาก ดูเฉี่ยวสุดๆ ต้องขอบคุณงานเทพของ CNC WECO E.6
#สิ่งที่ต้องรู้เมื่อต้องการเล่นแว่นกรอบโค้งแต่มีปัญหาสายตา
เราต้องเข้าใจธรรมชาติของแนวการมอง (visual axis) ที่กระทำต่อเลนส์ของแว่นกรอบโค้งนั้นไม่เหมือนกันแว่นทั่วๆไป ซึ่งแว่นทั่วๆไปนั้น เมื่อเรามองตรง visual axis จะตั้งฉากกับเลนส์ (คล้ายๆกับเวลาเราวัดกำลังเลนส์ด้วยเครือง lensometer) และเมื่อเรามองไปยังตำแหน่งต่างๆบนตัวเลนส์(ที่หลุดจากตำแหน่งมองตรงนั้น) มุมตกกระทบที่เกิดกับตาซ้ายและตาขวาจะเป็นมุมที่ใกล้เคียงกัน ระยะห่างระหว่างผิวหลังของเลนส์ถึงยอดกระจกตาของตาทั้งสองก็ใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดความสมมาตร (balancing) เราจึงใส่แว่นหน้าตรงแล้วไม่ค่อยมีปัญหา
ตรงข้ามกับแว่นโค้ง ขณะที่เรามองตรงอยู่นั้น Visual Axis จะเกิดการทำมุมกับเลนส์ (ไม่ฉาก) จะมุมมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าแว่นโค้งมากน้อยแค่ไหน ยิ่งโค้งมากมุมก็มากตาม มันจะเหนี่ยวนำ(induce) ให้เกิดความคลาดเคลื่อนของกำลังเลนส์ สายตาสั้น,ยาว,เอียงผิดเพี้ยนไป เกิดมีสายตาเอียงที่ไม่ได้สั่งแถมเข้ามา เกิดมีปริซึมที่ไม่ต้องการแถมเข้ามา ( เรียกรวมๆว่า unwanted oblique astigmatism ) ยิ่งสายตามากอยู่บนแว่นโค้งมาก ตัวคูณก็จะยิ่งเยอะ เกิด Error เยอะ และถ้าเป็นโปรเกรสซีฟยิ่งไปกันใหญ่
#แล้วถ้ามีปัญหาสายตามากแต่ก็มีความWantมากด้วยเช่นกันจะทำยังไง
มองมาที่แว่น : ลักษณะของแว่นที่มีความโค้งสปอร์ตนั้น จะมากับผิวหน้าเลนส์ที่โค้งมาก ยิ่งโค้งมากผิวเลนส์ก็จะโค้งมากตาม แว่นบางประเภทจะโค้งตามผิวโค้งของหน้าเลนส์ ได้แก่พวกเซาะร่องโลหะทั้งหลายเช่น #ic!Berlin ,#Mykita,#Linberg stip titanium แว่นพวกนี้จะโค้งตามผิวเลนส์ ถ้าเลนส์แบนๆอย่างพวก #Aspheric ,#DoubleAspheric ทั้งหลายที่เกิดมาก็แบนแตตแต๋แล้วไซต์ อย่าได้หวังว่าจะได้โค้งสปอร์ต แต่กลับได้แว่นหน้าแบนๆ โค้งน้อยๆ ขากางๆกลับไปแทน ไอ้ที่เคยฝันไว้ตอนลองนั้นก็พลันดับสลาย
ดังนั้น เลนส์ที่จะมาใช้กับแว่นโค้งได้ ต้องสามารถเลือกผิวโค้งของเลนส์ได้ (เลือก base curve ได้)
#อยากได้เลนส์ผิวโค้งก็สั่งสิไม่น่ายาก
การสั่งหน่ะไม่ยาก แต่ผู้ผลิตที่จะทำให้นั้นยากมาก ถึงยากที่สุด (ยกเว้นเลนส์จีน สั่งอะไรไปทำได้หมด ใส่ไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะมาตรฐานไม่เหมือนกัน แต่แบรนด์ใหญ่ถ้าตะแบงทำแล้วใส่ไม่ได้ คุณภาพไม่ถึงเขาเลือกที่จะไม่ทำ เสียหน้าน้อยกว่า ) และส่วนใหญ่ก็ทำกันไม่ได้ และการเลือก BC นั้นเป็นเรื่องที่ผู้ผลิตรายใหญ่ๆก็ยังไม่สามารถเปิด ออพชั่นให้สั่งได้ เพราะถ้าทำไปแล้ว แต่โครงสร้างใช้งานไม่ได้ ประสิทธฺภาพเลนส์ใช้งานไม่ได้ เพราะแต่ละแบรนด์จะต้องผ่าน QC ว่าเลนส์ที่จะนำมาใช้งานจะต้องมีคุณภาพของโครงสร้าง หรือมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินเท่าไหร่ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าเลนส์ค่ายใหญ่ๆหลายค่าย คู่หลายหมื่น ก็ยังไม่สามารถสั่งผิวโค้งเลนส์ได้ เพราะเทคโนโลยีมันจำกัดจริงๆ
#จะทำยังไงถ้าต้องการทั้งCosmeticทั้งFunctional
จริงๆ Choice ของแบรน์เลนส์ที่มีเทคโนโลยีรองรับ Demand ลักษณะนี้มีตัวให้เลือกไม่มากนักหรอก แต่แบรนด์ที่มั่นใจและเชื่อขนมกินได้ก็คือ #Rodenstock
Rodenstock รุ่นที่รองรับแว่นที่มีความโค้งมากๆ จะอยู่ในกลุ่มเลนส์เฉพาะบุคคล ซึ่งโรเด้นสต๊อกจะจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ชื่อว่า #ImpressionEyeLT2 ซึ่ง concept ของเลนส์กลุ่มนี้เรียกว่าเลนส์เฉพาะบุคค คือจะต้องใช้ตัวแปรมากกว่าเลนส์ทั่วๆไป คือตำแหน่งของแว่นตาขณะสวมใส่อยู่บนหน้าของแต่ละคน ได้แค่ค่าความโค้งหน้าแว่น(FFA),ค่ามุมเทของหน้าแว่น(PTA) ,ระยะห่างระหว่างกระจกตาถึงผิวหลังของเลนส์(CVD) ,ระยะห่างระหว่างกึ่งกลางจมูกถึงจุดกลางตาแต่ละข้าง(Monocular PD) ,ขอบล่างเลนส์ถึงศูนย์กลางของรูม่านตา(Monocular FH), รูปทรงและขนาดของเลนส์ (size&shape) , และ #ผิวโค้งของเลนส์ที่ต้องการใช้งาน(Base Curve) เพื่อเอาไปคำนวณโครงสร้างเลนส์แบบคู่ต่อคู่ ทำให้แว่นโค้งขนาดไหนก็สามารถทำได้ หรือมีสายตามากๆแต่ต้องการใส่แว่นโค้ง ต้องการเลือกผิวเลนส์ที่โค้ง ก็สามารถสั่งได้เช่นกัน
#ทำความรู้จักกับเลนส์โปรเกรสซีฟImpressionEyeLTกันสักเล็กน้อย
#ImpressionFreeSign3 : เป็นเลนส์เฉพาะบุคคลที่สามารถออกแบบโครงสร้างโปรเกรสซีฟได้ตามพฤติกรรมการใช้งานได้ด้วยตัวผู้ใช้เอง ทำบนกรอบแว่นที่โค้งได้ไม่เกิน 15 องศา,เลือก BC ได้อิสระ เลนส์จะมีความสวยงามมากเป็นพิเศษเนื่องจากสามารถย้ายเซนเตอร์ไปที่พื้นที่ที่สวยที่สุดหรือบางที่สุดของเลนส์ได้ (เทคโนโลยีเลนส์แว่นตาบนโลกนี้ ทำดีได้เท่านี้)
#ImpressionEyeLT2 : เป็นรุ่นที่รองลงมาจาก FreeSign3 ต่างที่มีการ fixed corridor ไว้ 3 โครงสร้างคือ XS,M,L ทำบนกรอบแว่นโค้งได้ไม่เกิน 15 องศา เลือก BC ได้อิสระ
#ImpressionHyperop : เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะคน สำหรับผู้ที่สายยาวตาเกิน +8.00 ถึง +13.00D (ในขณะที่รุ่นธรรมดานั้นจะทำได้ไม่เกิน +8.00D ด้วยขีดจำกัดทางการผลิตที่ไม่สามารถเอาชนะปัญหา base curve effect ได้)
#ImpressionMyop : เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะคน สำหรับผู้ที่สายตาสั้นเกิน -8.00 ถึง -17.25D (ในขณะที่รุ่นธรรมดานั้นจะทำได้ไม่เกิน -10.00D ด้วยขีดจำกัดทางการผลิตที่ไม่สามารถเอาชนะปัญหา base curve effect ได้)
#ImpressionSport2 : เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟสำหรับเล่นกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งจะออกแบบโครงสร้างให้มีสนามภาพมองไกลและกลางที่กว้างมากเป็นพิเศษ มีภาพบิดเบี้ยวด้านข้างที่ต่ำมาก ถึงมากที่สุด เอาเป็นว่ากระโดดโลดเต้นก็ไม่ต้องกลัวเรื่องภาพมัวด้านข้าง Dynamic vision ดีสุดๆ ทำบนกรอบแว่นได้โค้งสูงสุด 30 องศา เลือก BC ได้อิสระ ข้อเสียมีเรื่องเดียวคือ เห็นชัดได้ใกล้สุด 60 ซม. ซึ่งเป็นระยะสำหรับสปอร์ต เอามาอ่านหนังสือ. 40 ซม.ไม่ได้
#ImpressionFashionCurve : ถ้าอยากได้แว่นโปรเกรสซีฟกรอบโค้งที่ไม่เกิน 20 องศา เลือก BC ได้อิสระ และอ่านหนังสือ 40 ซม.ได้ เอาไว้ใส่เดินห้างชิวๆ ไม่ได้เล่นกีฬา ก็เลือกตัวนี้แหล่ะ
#SuperModel
จากความประสงค์ของลูกค้า แว่นเบา ใส่สบาย ดูแพง หน้าแพง Brand image ดี ใส่ทำงานได้ เล่นกอฟท์ได้ สายตาเยอะ แต่อยากได้แว่นโค้ง ก็ต้องเลือก Base curve ได้ และใส่สบายเหมือนแว่นหน้าตรง จึงไปจบที่
กรอบ Lindberg Spirit8 (Customaed)
เลนส Rodenstock Impression EyeLT2 ColorMatic IQ 2 Gray
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
ด้วยรักและคิดถึงครับ
ดร.ลอฟท์
LINDBERG spirit8 titanium (base curve 8)
BRIDGE: Basic, Flat, M , 3.5 mm clips, colour P10
TEMPLES: Plate 74, 130 mm, colour P10
CLIPS: R: 3.5 mm, L: 3.5 mm, colour P10
LINDBERG case T4441
T4540 polishing cloth
Name Engraving : SATAPORN KAWEWONG